การพัฒนาซอฟต์แวร์ เขียนโปรแกรม จัดทำข้อมูล และวิจัย

การพัฒนาซอฟต์แวร์และโปรแกรมอินเตอร์เน็ตให้ทันสมัยในปัจจุบัน

6

การพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือโปรแกรมนั้น ๆ มีขั้นตอนกว้าง ๆ อยู่ 4 ขั้นตอน คือ การศึกษาความต้องการ สมมุติว่าเราต้องการพัฒนาโปรแกรมสำหรับช่วยคำนวณ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือ ภ.ง.ด. 91 เราจำเป็นจะต้องกำหนดความชัดเจนของเราก่อนว่า ต้องการให้คอมพิวเตอร์ทำอะไรได้บ้าง เช่น ต้องการให้คอมพิวเตอร์คำนวณภาษีสำหรับเจ้าของรายได้ เมื่อแยกยื่นภาษีกับผู้สมรส หรือจะให้สามารถรวมภาษีรวมได้ เราต้องการให้ซอฟต์แวร์พิมพ์ตัวเลขต่าง ๆ เกี่ยวกับภาษีออกมาให้เรานำไปเขียนกรอกในแบบฟอร์ม หรือเราต้องการให้ซอฟต์แวร์สามารถพิมพ์แบบฟอร์มได้เองโดยอัตโนมัติ รายละเอียดเหล่านี้เราต้องศึกษาให้พร้อม อนึ่ง เราต้องศึกษาขั้นตอนการคิดเงินภาษีด้วยว่ามีอะไรบ้างจะต้องทำขั้นตอนไหนก่อนหลัง แต่ละขั้นตอนมีการใช้สูตรอะไรบ้างออกแบบโปรแกรมเมื่อทราบความต้องการแล้ว ต่อมาจะต้องออกแบบโปรแกรมว่าจะ ให้แสดงข้อความอะไรบนจอภาพบ้าง รายการหลักหรือเมนูที่จะให้ปรากฏหน้าจอจะมีข้อความอย่างไร จะใช้วิธีเลือกรายการอย่างไร โปรกแกรมจะต้องมีกี่ส่วน จะต้องพิมพ์รายงานอะไรบ้าง จะเก็บข้อมูลอะไรไว้บ้าง

การเขียนโปรแกรมหลังจากออกแบบเค้าโครงออกโปรแกรมแล้ว เราสามารถเลือกเขียน ภาษาคอมพิวเตอร์แบบใดแบบหนึ่ง ซึ่งเราถนัดและมีตัวแปลรักษาอยู่แล้ว ภาษาอยู่แล้วมาใช้ในการเขียนโปรแกรมทดสอบโปรแกรม เมื่อเราเขียนโปรแกรมเสร็จก็จะต้องทดสอบว่า โปรแกรมที่จะทำขึ้น นั้นสามารถทำงานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการ วิธีทดสอบนั้นเราจะจัดเตรียมข้อมูล ทดสอบเอาไว้ล่วงหน้า โดยข้อมูลทดสอบนั้นจะเป็นข้อมูลพิเศษที่เรารู้คำตอบล่วงหน้าแล้ว เมื่อนำข้อมูลนี้ไปใช้กับโปรแกรมที่จัดทำขึ้น เราก็มุ่งหวังที่จะได้คำตอบตรงกับคำตอบที่คิดไว้แล้ว หากไม่ตรงก็อาจเป็นก็เพราะมีสิ่งที่ผิดในโปรแกรม ถ้าเป็นเช่นนั้น นักโปรแกรมก็จะพิจารณาตรวจหาสิ่งผิดพลาดในโปรแกรม เพื่อแก้ไขและนำโปรแกรมนั้นมาทดสอบอีก จนกว่าจะเห็นว่าโปรแกรมทำงานได้ถูกต้องครบถ้วน การค้นหาที่ผิดนี้นิยมเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Debugging เมื่อได้จัดทำโปรแกรมขึ้นมาถึง 4 ขั้น และแน่ใจว่าโปรแกรมนั้นถูกต้องดีแล้ว เราก็พร้อม นำโปรแกรมนั้นไปใช้งานจริงต่อไป อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะได้แก้ไขโปรแกรมดีแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็อาจจะพบว่าเกิดความคาดเคลื่อนในที่อื่น ๆ หรือเกิดความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขโปรแกรมใหม่ เพราะมีความเปลี่ยนแปลงในสิ่งแวดล้อม และผู้ใช้เองก็อาจเกิดความต้องการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอีก การแก้ไขเปลี่ยนแหลงเหล่านี้เรารวมเรียกว่า เป็นการบำรุงโปรแกรม